ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ รับถอดประกอบเฟอร์นิเจอร์ พร้อมอุปกรณ์แพ็คกิ้ง

ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ รับถอดประกอบเฟอร์นิเจอร์ พร้อมอุปกรณ์แพ็คกิ้ง

เราให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ทุกชนิด แพ็คกิ้งด้วยวัสดุกันกระแทกอย่างดี ช่วยป้องกันการเสียหายระหว่างขนย้าย มีรถขนส่งพร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ดูแลการจัดวางให้ปลอดภัย รวดเร็ว และทันเวลา เมื่อถึงที่หมายก็พร้อมประกอบเฟอร์นิเจอร์และจัดวางให้ตามความต้องการของคุณ สะดวกสบาย ครบ จบในที่เดียว!

ถอดประกอบเตียงนอน
ขนเฟอร์นิเจอร์
ถอดประกอบเตียงนอน

ทีมงานช่างมืออาชีพด้านการถอด-ประกอบ

ทีมงานมืออาชีพด้านการถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ คือหัวใจสำคัญของการให้บริการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ เพราะงานถอด-ประกอบไม่ใช่เพียงแค่การไขสกรูหรือย้ายชิ้นส่วน แต่ต้องอาศัยความรู้ ความละเอียดรอบคอบ และประสบการณ์โดยตรง ซึ่งเราให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน ดังนี้
1. ประสบการณ์และความชำนาญ
 
– ทีมงานผ่านการฝึกอบรมเฉพาะด้าน ทั้งการใช้อุปกรณ์และเข้าใจโครงสร้างภายในของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชนิด
– มีความชำนาญในการตรวจสอบจุดเชื่อมต่อและเลือกวิธีถอด/ประกอบ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์
2. กระบวนการทำงานเป็นระบบ
 
– ก่อนลงมือถอดเฟอร์นิเจอร์ ทีมงานจะทำการประเมินและวางแผน เช่น ถ่ายรูปชิ้นส่วน จดบันทึกรายละเอียด ประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
– ระหว่างการถอด ทีมงานจะจัดเก็บชิ้นส่วนอย่างเป็นระเบียบ พร้อมเครื่องหมายกำกับ หรือใส่ถุงซิปล็อกเพื่อป้องกันการสูญหายและเพื่อให้ง่ายต่อการประกอบในภายหลัง
3. ใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน
 
– คัดเลือกใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพ เช่น ไขควงไฟฟ้า ประแจ และเครื่องมือเสริมอื่น ๆ เพื่อให้การถอด-ประกอบมีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย
– มีวัสดุห่อหุ้มรองรับ เช่น โฟมกันกระแทก แอร์บับเบิ้ล เพื่อป้องกันการขีดข่วนระหว่างการขนย้าย
4. ดูแลรายละเอียดครบถ้วน
 
– หากมีชิ้นส่วนบอบบางหรือวัสดุที่เสี่ยงต่อการแตกหัก ทีมงานจะหุ้มหรือรองรับเพิ่มเติมเป็นพิเศษ
– ให้คำแนะนำลูกค้าในการวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ที่ปลายทางเพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างห้อง เช่น หลีกเลี่ยงจุดที่มีความชื้นหรือแดดแรงเกินไป
5. ลดความเสี่ยงต่อความเสียหาย
 
– ความเข้าใจในโครงสร้างเฟอร์นิเจอร์ทำให้ทีมงานเลือกวิธีการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสม เช่น ต้องยกจากมุมใด ใช้คนกี่คน ใช้สายรัดหรือไม่
– ทุกขั้นตอนดำเนินการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อทั้งเฟอร์นิเจอร์และพื้นที่ในบ้าน/สำนักงานของลูกค้า
6. บริการหลังการติดตั้ง
 
– เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ทีมงานจะตรวจสอบความสมบูรณ์ของเฟอร์นิเจอร์อีกครั้ง และจัดวางตามตำแหน่งที่ลูกค้าต้องการ
– มีการเก็บกวาดและเคลียร์เศษวัสดุหลังการติดตั้ง เพื่อให้พื้นที่ใช้งานได้ทันที
ด้วยกระบวนการทั้งหมดนี้ ทำให้ทีมงานมืออาชีพด้านการถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ของเราเป็นที่ยอมรับและเชื่อมั่นได้ในคุณภาพ ทั้งในแง่การรักษาสภาพเฟอร์นิเจอร์ให้คงทนและลดความกังวลของลูกค้าในทุกขั้นตอนของการขนย้าย

แพ็คกิ้งอย่างพิถีพิถัน

แพ็คกิ้งอย่างพิถีพิถัน คือการใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนของการบรรจุหีบห่อ และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของจากความเสียหายระหว่างการขนย้าย โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ดังนี้
1. เลือกวัสดุหีบห่อที่เหมาะสม
 
– แอร์บับเบิล (Air Bubble): ใช้ห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์เพื่อรองรับการกระแทก ลดการเกิดรอยขีดข่วน และลดความเสียหายเมื่อกระทบกับสิ่งของอื่น
– กล่องกระดาษหนา: เหมาะสำหรับใส่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ หรืออุปกรณ์เสริมที่ต้องแยกแพ็ค ช่วยจัดระเบียบได้ง่าย และสะดวกต่อการขนย้าย
– โฟมกันกระแทก: ใช้รองชั้นในหรือรองมุมสำคัญของเฟอร์นิเจอร์ที่อาจเกิดรอยกระแทก รอยบุบ หรือมุมแตกหักได้ง่าย
 
2. ประเมินลักษณะเฟอร์นิเจอร์ก่อนแพ็ค
 
– ทีมงานจะตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ทั้งขนาด น้ำหนัก จุดที่เปราะบาง หรืออาจมีส่วนประกอบที่เคลื่อนไหวได้ (เช่น บานพับ ลิ้นชัก)
– เลือกวิธีแพ็คกิ้งและอุปกรณ์ให้เหมาะกับชิ้นงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
 
3. ขั้นตอนการห่อและซีล
 
– หากมีผิวหน้าที่เป็นกระจกหรือเคลือบเงา ควรเสริมด้วยกระดาษลูกฟูก หรือแผ่นกันกระแทกหลายชั้น ก่อนพันด้วยแอร์บับเบิลอีกชั้น
– มุมหรือขอบเฟอร์นิเจอร์ที่เสี่ยงต่อการแตกหัก จะถูกบุโฟมกันกระแทกแล้วรัดด้วยเทปให้แน่น
– ใช้เทปพันหรือลวดรัดให้พอดี ไม่แน่นหรือหลวมเกินไป เพื่อไม่ให้วัสดุภายในเคลื่อนตัวระหว่างการขนย้าย
 
4. จัดเรียงในรถอย่างมีระบบ
 
– การแพ็คกิ้งอย่างดีจะต้องมาควบคู่กับการจัดวางที่เหมาะสมภายในรถขนส่ง เช่น หาของหนักไว้ด้านล่าง ของเบาไว้ด้านบน และเว้นช่องว่างไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ขยับชนกัน
– หากมีของชิ้นใหญ่และชิ้นเล็กปะปนกัน ควรกันโซนแยกให้ชัดเจน เพื่อรักษาสภาพเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นให้ดีที่สุด
 
5. ป้องกันความเสียหายระหว่างทาง
 
– ทุกการเดินทาง ทีมงานจะตรวจเช็กความแน่นหนาของหีบห่อ และตั้งสมดุลของเฟอร์นิเจอร์ให้มั่นคง
– ใช้สายรัดหรือตัวยึดภายในรถเพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดหรือกระแทกระหว่างการขนย้าย
 
6. ลดขั้นตอนและความวุ่นวายของลูกค้า
 
– เมื่อถึงปลายทางและเปิดกล่อง ทีมงานมืออาชีพสามารถนำชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ออกมาติดตั้งได้ทันที เพราะมีการติดป้ายหรือจัดกลุ่มชิ้นส่วนไว้เป็นระเบียบ
– ขั้นตอนแพ็คกิ้งที่ดีช่วยร่นเวลาการติดตั้ง ลดโอกาสความเสียหายหรือสูญหายของอุปกรณ์
ด้วยกระบวนการข้างต้น “แพ็คกิ้งอย่างพิถีพิถัน” จะช่วยรับประกันว่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณจะได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุดในทุกระยะทาง ไม่ว่าจะเป็นการย้ายบ้าน คอนโด หรือออฟฟิศ ให้คุณสบายใจไร้กังวลตลอดการขนย้าย!

บริการรถขนส่งเฟอร์นิเจอร์

บริการรถขนส่งเฟอร์นิเจอร์ เป็นหัวใจของการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้ถึงปลายทางอย่างปลอดภัยและตรงเวลา ซึ่งประกอบไปด้วยขั้นตอนและปัจจัยสำคัญหลายด้าน ดังนี้
1. การเลือกประเภทรถขนส่งให้เหมาะสม
 
– มีรถหลากหลายขนาด เช่น รถกระบะตู้ทึบ รถบรรทุกสี่ล้อกลาง รถบรรทุกหกล้อ เพื่อรองรับปริมาณและขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกัน
– รถทุกคันต้องมีอุปกรณ์เสริมในการรัดและกันกระแทก เช่น เชือก สายรัดยางยืด แผ่นยางกันลื่น เพื่อความปลอดภัยระหว่างการขนย้าย
2. ระบบป้องกันความเสียหายขณะขนย้าย
 
– รถขนส่งที่ดีควรมีตู้ทึบหรือผ้าใบคุณภาพสูง ป้องกันละอองฝน ฝุ่น แดด และแรงลม
– ภายในตู้ขนส่งมักมีจุดยึดหรือห่วงสำหรับคล้องสายรัด ช่วยป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ล้ม หรือกระแทกกันระหว่างทาง
3. จัดวางและยึดตรึงอย่างเป็นระบบ
 
– ทีมงานมืออาชีพจะประเมินรูปทรง น้ำหนัก และความเปราะบางของเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น จากนั้นจึงวางแผนจัดเรียงในรถให้เฟอร์นิเจอร์ไม่เบียดหรือกระแทกกัน
– ใช้อุปกรณ์กันกระแทก เช่น โฟม แอร์บับเบิล หรือผ้าหนา ๆ รองผิวสัมผัสของเฟอร์นิเจอร์ เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและรอยบุบ
4. ความปลอดภัยและการประกันความเสียหาย
 
– ควรมีการตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง เช่น ระบบเบรก ยาง และสภาพภายนอก
– ผู้ให้บริการบางรายอาจมีประกันคุ้มครองสินค้าหรือเฟอร์นิเจอร์ในระหว่างการขนย้าย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าหากเกิดความเสียหาย จะได้รับการชดเชยตามเงื่อนไขที่กำหนด
5. วางแผนเส้นทางและกำหนดเวลา
 
– การประเมินเส้นทางล่วงหน้า ช่วยหลีกเลี่ยงถนนที่มีรถติดหรือการจราจรหนาแน่นเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการเสียหายจากการเบรกกะทันหัน
– กำหนดเวลาขนย้ายและจัดตารางร่วมกับลูกค้าอย่างชัดเจน เพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงตามกำหนด
6. ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของทีมงาน
 
– พนักงานขับรถและผู้ช่วยขนของ ควรมีประสบการณ์ในการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ รู้วิธีรับมือกับของชิ้นใหญ่ หนัก หรือเปราะบาง
– มีการประสานงานภายในทีมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการยกของ การวางแผนจัดระเบียบ การควบคุมความปลอดภัย และการให้บริการลูกค้าอย่างสุภาพและใส่ใจ
ด้วยองค์ประกอบและขั้นตอนข้างต้น บริการรถขนส่งเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญในการย้ายบ้าน ย้ายคอนโด หรือย้ายออฟฟิศ ทำให้มั่นใจได้ว่าเฟอร์นิเจอร์และทรัพย์สินของคุณจะเดินทางถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย ครบถ้วน และตามเวลาที่กำหนด ทั้งยังช่วยลดความกังวลและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณตลอดการขนย้ายอีกด้วย!

รับถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ ทุกยี่ห้อ

บริการถอดและประกอบเฟอร์นิเจอร์ที่ครบวงจร ครอบคลุมทุกแบรนด์หรือยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์บิ้วท์อิน (Built-in) เฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ (Knockdown) หรือเฟอร์นิเจอร์สั่งทำพิเศษ ทีมงานมืออาชีพของเราเข้าใจโครงสร้างและรูปแบบชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์ทุกรูปแบบอย่างแท้จริง ช่วยให้การถอด-ประกอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีคุณภาพ
1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมงาน
 
– ช่างผู้เชี่ยวชาญ: ทุกคนผ่านการฝึกอบรมและมีประสบการณ์ในการถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์หลายแบรนด์ ซึ่งอาจใช้วิธีการเชื่อมต่อที่แตกต่างกัน เช่น ตะปูเกลียว เดือยไม้ รางลิ้นชักแบบ Soft Close หรือระบบล็อคพิเศษ
– เข้าใจโครงสร้างวัสดุ: บางแบรนด์ใช้วัสดุที่แตกต่างกัน เช่น ไม้จริง ไม้ปาติเคิลบอร์ด ไม้ MDF ไม้อัด หรือโลหะ ทำให้ต้องระวังในการถอด-ประกอบ เพื่อไม่ให้เกิดรอยแตกหรือเสียหาย
 
2. อุปกรณ์และเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน
 
– ไขควงไฟฟ้า / เครื่องมือช่างครบชุด: เลือกใช้ขนาดหัวขันที่เหมาะสม ช่วยลดความเสี่ยงที่สกรูหรืออุปกรณ์ยึดต่าง ๆ จะรูดหรือเสียหาย
– อุปกรณ์เสริมพิเศษ: เช่น ประแจ อุปกรณ์จับยึด (Clamp) เพื่อช่วยให้การถอด-ประกอบทำได้อย่างแม่นยำ ลดการผิดตำแหน่งหรือเจาะเบี้ยว
– วัสดุกันกระแทก/รองรับ: มีแผ่นรอง แอร์บับเบิล และโฟมกันกระแทก เผื่อกรณีต้องเคลื่อนย้ายหรือวางพักชิ้นส่วน ไม่ให้พื้นผิวสัมผัสเสียหาย
 
3. ขั้นตอนการถอดอย่างเป็นระบบ
 
– ประเมินโครงสร้างล่วงหน้า: ทีมงานจะตรวจสอบและจดจำตำแหน่งชิ้นส่วนต่าง ๆ ถ่ายรูปหรือบันทึกวิดีโอเพื่ออ้างอิงในภายหลัง
– ลำดับการถอด: เริ่มจากส่วนยึดหลัก เช่น หลังตู้หรือแผงรอง รับน้ำหนัก แล้วค่อย ๆ ปลดชิ้นส่วนอื่นทีละขั้นตอน
– จัดเก็บชิ้นส่วนอย่างเป็นระเบียบ: แยกถุงน็อต สกรู อุปกรณ์ล็อคต่าง ๆ พร้อมติดฉลาก หรือระบุหมายเลขกำกับ เพื่อให้สะดวกต่อการประกอบในภายหลัง
– ตรวจสอบความสมบูรณ์: เมื่อถอดเสร็จ จะเช็กสภาพว่ามีจุดชำรุดหรือไม่ หากพบจะรีบแจ้งลูกค้าให้ทราบทันที
 
4. การประกอบและติดตั้ง
 
– อ้างอิงขั้นตอนเดิม: นำภาพหรือบันทึกที่จัดเก็บไว้มาเปรียบเทียบ เพื่อให้การประกอบเป็นไปอย่างถูกต้องและง่ายที่สุด
– เชื่อมต่อชิ้นส่วนหลัก: เริ่มประกอบจากโครงหลักหรือเฟรม (Frame) ที่เป็นโครงสร้างรับน้ำหนัก ตามด้วยชิ้นส่วนย่อย เช่น ประตู ตู้ลิ้นชัก หรือชั้นวาง
– ตรวจสอบความแข็งแรง: ใช้เครื่องมือวัดระดับหรือฟังก์ชันล็อคบางอย่างตามคำแนะนำของแบรนด์นั้น ๆ เพื่อให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่มั่นคง แข็งแรง ไม่โยก
– ปรับแต่งจุดละเอียด: เช่น การปรับบานพับลิ้นชักให้เปิด-ปิดได้เรียบลื่นหรือการจัดระนาบให้ตรงแนว
 
5. ประโยชน์และข้อดีของบริการ
 
– รักษาเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์: ลดความเสี่ยงในการเกิดรอยหรือชำรุดระหว่างการขนย้าย
– ประหยัดเวลาและแรงงาน: ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาหรือเสี่ยงบาดเจ็บจากการถอด-ประกอบเอง
– มั่นใจในความปลอดภัย: ทีมงานทำงานตามมาตรฐานความปลอดภัย มีขั้นตอนป้องกันความเสียหายต่อชิ้นส่วนและพื้นที่หน้างาน
– รับประกันผลงาน: หากเกิดปัญหาหรือความไม่เรียบร้อยในการประกอบ ทีมงานสามารถเข้ามาปรับแก้ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
 
6. เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์
 
– ย้ายบ้านใหม่ ย้ายคอนโด: ช่วยลดภาระลูกค้าในการยกของหนัก ๆ หรือถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่
– ย้ายออฟฟิศหรือสำนักงาน: ถอด-ประกอบโต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์ ตู้เก็บเอกสารจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว มืออาชีพ
– ปรับปรุง/ต่อเติมพื้นที่ในบ้าน: ต้องการขยับย้ายที่วางเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น หรือปรับเปลี่ยนมุมใหม่ ก็เรียกใช้ทีมถอด-ประกอบได้ทันที
ด้วยบริการ รับถอด-ประกอบเฟอร์นิเจอร์ ทุกยี่ห้อ ของเรา คุณจะได้รับความสะดวกและความมั่นใจว่าเฟอร์นิเจอร์อันมีค่าจะถูกดูแลอย่างมืออาชีพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การถอด การจัดเก็บ ไปจนถึงการประกอบติดตั้งในจุดหมายใหม่อย่างเรียบร้อยและคงทนยาวนาน!

มีทีมช่างประกอบเฟอร์ฯ พร้อมให้บริการ

การประกอบเฟอร์นิเจอร์อย่างถูกต้อง ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ แต่ยังช่วยประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงต่อความเสียหาย และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะกับเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีชิ้นส่วนซับซ้อน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยทีมช่างประกอบที่มีความรู้และทักษะเฉพาะทาง
1. ทีมช่างประกอบมืออาชีพ
 
– ประสบการณ์หลากหลาย: ทีมช่างผ่านการทำงานกับเฟอร์นิเจอร์นานาชนิด ทั้งเฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ บิ้วท์อิน และเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ชั้นนำ
– ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน: เข้าใจโครงสร้าง การออกแบบ และวิธีประกอบ จึงทำงานได้เร็วและแม่นยำ พร้อมให้คำแนะนำได้ตรงจุด
2. เครื่องมือทันสมัยและครบครัน
 
– เครื่องมือช่างคุณภาพสูง: มีชุดไขควงไฟฟ้า ประแจ บล็อก พร้อมหัวขันหลากหลายขนาด ช่วยให้ชิ้นส่วนไม่รูดหรือเสียหาย
– อุปกรณ์เสริม: เช่น แคลมป์ (Clamp) สำหรับยึดชิ้นงาน โฟมกันกระแทก หรือบับเบิลสำหรับรองรับพื้นผิวที่อาจเสียหายง่าย
3. ขั้นตอนการทำงานอย่างเป็นระบบ
 
– สำรวจและประเมินงาน: เช็กประเภทและโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงตำแหน่งที่จะติดตั้ง เพื่อวางแผนการทำงาน
– จัดเรียงชิ้นส่วนและอุปกรณ์: แยกชิ้นส่วนให้เป็นระเบียบ ติดป้ายหรือรหัสกำกับเพื่อป้องกันการสับสน
– ประกอบตามคู่มือหรือมาตรฐาน: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ และใช้เทคนิคการยึดให้แน่นหนาและปลอดภัย
– ตรวจสอบความแข็งแรง: วัดระดับ ตรวจเช็กมุม บานพับ หรือรางลิ้นชัก เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น
– เก็บงานเรียบร้อย: ทำความสะอาดพื้นที่ ปรับตำแหน่งตามความต้องการของลูกค้า
4. รองรับงานหลากหลายรูปแบบ
 
– บ้านและคอนโด: ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะอาหาร หรือชั้นวางทีวี ก็ประกอบได้ครบวงจร
– สำนักงานและร้านค้า: จัดการโต๊ะทำงาน เก้าอี้ ตู้เก็บเอกสาร เคาน์เตอร์ หรือชั้นวางสินค้า
– โครงการบิ้วท์อิน: ติดตั้งตู้บิ้วท์อิน ตู้โชว์ หรือชั้นเก็บของที่ต้องการความประณีตสูง
5. ประหยัดเวลาและลดความเสี่ยง
 
– ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก: ทีมช่างมีประสบการณ์ จึงรู้วิธีประกอบได้ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรก
– ป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย: การยกและติดตั้งชิ้นส่วนใหญ่ ๆ หากทำโดยไม่มีความรู้ อาจเกิดอันตรายทั้งต่อคนและตัวเฟอร์นิเจอร์
6. บริการหลังการติดตั้ง
 
– ปรับแก้หรือย้ายจุดติดตั้ง: หากต้องการปรับระยะหรือเปลี่ยนตำแหน่ง ก็สามารถแจ้งทีมช่างให้ช่วยดูแลได้
– ดูแลรักษา: ให้คำแนะนำการทำความสะอาด วิธีเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เสื่อมสภาพหรือชำรุดเร็ว
ด้วย ทีมช่างประกอบเฟอร์ฯ พร้อมให้บริการ ของเรา คุณจึงมั่นใจได้ว่าทุกกระบวนการตั้งแต่การประกอบ ติดตั้ง ไปจนถึงการดูแลหลังงานเสร็จสิ้น จะได้รับการดำเนินการอย่างเป็นมืออาชีพ รวดเร็ว และปลอดภัย ช่วยให้คุณประหยัดเวลา ลดความยุ่งยาก และได้ผลงานที่เรียบร้อยที่สุด!

ประเภทของเฟอร์นิเจอร์ มีอะไรบ้าง

ประเภทของเฟอร์นิเจอร์ สามารถแบ่งได้หลายมุมมอง ทั้งตามการใช้งาน พื้นที่ใช้งาน รูปแบบการประกอบ และชนิดของวัสดุที่ใช้ผลิต ในที่นี้จะขอสรุปให้เห็นภาพรวมและอธิบายอย่างละเอียด ดังนี้
1. แบ่งตามการใช้งานและพื้นที่
1.1 เฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่น (Living Room Furniture)
 
– โซฟา (Sofa): มีหลากหลายรูปแบบ เช่น โซฟาหนัง โซฟาผ้า โซฟาเบด มีฟังก์ชันนั่ง-นอนหรือปรับเอนได้
– โต๊ะกลาง (Coffee Table): ใช้วางของกระจุกกระจิก หรือวางเครื่องดื่ม ตกแต่งห้องให้สวยงาม
– ชั้นวางทีวี (TV Stand/Entertainment Unit): มีชั้นหรือช่องเก็บของสำหรับเครื่องเล่นหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ
– ตู้โชว์/ตู้เก็บของ (Display Cabinets/Storage): สำหรับตั้งโชว์ของสะสมหรือหนังสือ ช่วยจัดระเบียบและเพิ่มความสวยงาม
1.2 เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน (Bedroom Furniture)
 
– เตียง (Bed): มีหลายขนาด เช่น Single, Queen, King หรือเตียง 2 ชั้นสำหรับเด็ก บางรุ่นมีลิ้นชักเก็บของใต้เตียง
– ตู้เสื้อผ้า (Wardrobe): แบ่งเป็นตู้บานเปิด บานเลื่อน ตู้บิลท์อิน (Built-in) และตู้แบบน็อคดาวน์
– โต๊ะเครื่องแป้ง (Dressing Table): สำหรับแต่งหน้า ทำผม หรือใช้งานอื่น ๆ
– ตู้ข้างเตียง (Bedside Table): วางโคมไฟ หนังสือ หรือของใช้จำเป็นก่อนนอน
1.3 เฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานหรือสำนักงาน (Office Furniture)
 
– โต๊ะทำงาน (Office Desk): มีช่องเก็บของ ลิ้นชัก หรือฟังก์ชันปรับระดับความสูงได้
– เก้าอี้สำนักงาน (Office Chair): ออกแบบให้รองรับสรีระในการนั่งทำงานได้อย่างสบาย ปรับสูง-ต่ำได้
– ตู้เก็บเอกสาร (Filing Cabinet): เก็บเอกสารสำคัญให้เป็นระเบียบ มีล็อกเพื่อความปลอดภัย
– ชั้นวางหนังสือ/เอกสาร (Bookcase/Shelf): แบ่งหมวดหมู่หนังสือหรือแฟ้มเอกสารได้ชัดเจน
1.4 เฟอร์นิเจอร์ในห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร (Kitchen & Dining Furniture)
 
– โต๊ะอาหาร (Dining Table): เลือกขนาดตามจำนวนสมาชิกในบ้าน รูปร่างอาจเป็นสี่เหลี่ยม วงกลม หรือวงรี
– เก้าอี้รับประทานอาหาร (Dining Chair): ควรนั่งสบาย แข็งแรง และเข้ากับสไตล์โต๊ะอาหาร
– เคาน์เตอร์ครัว (Kitchen Counter/Cabinet): บิ้วท์อินหรือแบบลอยตัวสำหรับจัดเก็บเครื่องครัวและอุปกรณ์
– ตู้ลอย (Wall Cabinet): ติดผนังในครัวเพื่อเก็บจาน ชาม และอุปกรณ์ทำอาหารต่าง ๆ
1.5 เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง (Outdoor Furniture)
 
– ชุดโต๊ะเก้าอี้สนาม (Patio Set/Garden Furniture): ทำจากวัสดุทนแดด ทนฝน เช่น หวายสังเคราะห์ เหล็ก หรือไม้เนื้อแข็ง
– ร่มสนาม (Umbrella/Cantilever): ใช้กันแดดกันฝนเมื่อนั่งพักผ่อนหรือรับประทานอาหารกลางแจ้ง
– ชิงช้า/ม้านั่งยาว (Swing/Bench): เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลายในสวนหรือระเบียง
2. แบ่งตามรูปแบบการประกอบ
2.1 เฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์ (Knockdown Furniture)
 
– เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถถอดประกอบได้ง่าย มักมาในกล่องแพ็คเรียบร้อย
– เหมาะกับการขนย้ายบ่อย ๆ และมีราคาไม่สูงมาก
– ตัวอย่าง: ตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน หรือชั้นวางของจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ลูกค้าสามารถประกอบได้เอง
2.2 เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน (Built-in Furniture)
 
– ติดตั้งเข้ากับโครงสร้างห้อง เช่น ตู้เสื้อผ้าบิลท์อิน เคาน์เตอร์ครัวบิลท์อิน
– ออกแบบตามขนาดห้องพอดี สวยงามและใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า
– ปรับเปลี่ยนตำแหน่งหรือย้ายยาก ต้องใช้งบประมาณและการออกแบบเฉพาะทาง
2.3 เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Freestanding Furniture)
 
– เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่วางตั้งได้อิสระ ไม่ต้องยึดติดกับผนังหรือพื้น
– เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งในห้องได้ง่าย
3. แบ่งตามชนิดวัสดุ
3.1 เฟอร์นิเจอร์ไม้ (Wooden Furniture)
 
– ทำจากไม้จริง (Solid Wood) เช่น ไม้สัก ไม้มะม่วง ไม้โอ๊ค หรือใช้ไม้แปรรูป เช่น ไม้ MDF ไม้ปาติเคิลบอร์ด
– ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ อบอุ่น แต่ต้องดูแลรักษาไม่ให้โดนน้ำหรือความชื้นมากเกินไป
3.2 เฟอร์นิเจอร์โลหะ (Metal Furniture)
 
– ทำจากเหล็ก สแตนเลส หรืออะลูมิเนียม
– โดดเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนทาน ทันสมัย และดูแลง่าย
 3.3 เฟอร์นิเจอร์หวายหรือหวายสังเคราะห์ (Wicker/Rattan Furniture)
 
– เหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์ธรรมชาติหรือวินเทจ
– หวายสังเคราะห์จะมีความทนต่อสภาพอากาศได้ดีกว่าหวายธรรมชาติ
3.4 เฟอร์นิเจอร์พลาสติก (Plastic Furniture)
 
– น้ำหนักเบา ทนฝน ทนแดด ราคาย่อมเยา
– เหมาะกับการใช้งานชั่วคราวหรือสำหรับพื้นที่กลางแจ้ง
3.5 เฟอร์นิเจอร์หนัง (Leather Furniture)
 
– ส่วนใหญ่เป็นโซฟา เก้าอี้เพื่อการพักผ่อนหรือประดับตกแต่งห้องนั่งเล่น
– ต้องดูแลรักษาและทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะเพื่อยืดอายุการใช้งาน
4. แบ่งตามสไตล์การออกแบบ
4.1 สไตล์โมเดิร์น (Modern Style)
 
– เน้นเส้นสายเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
– โทนสีเรียบ เช่น สีขาว เทา ดำ หรือวัสดุโลหะ กระจก ผสมผสานกับไม้เนื้อเรียบ
4.2 สไตล์คลาสสิก (Classic Style)
 
– รายละเอียดหรูหรา มีลวดลาย แกะสลัก
– ใช้วัสดุไม้เนื้อดี ผ้าลายหรู หรือหนังแท้
4.3 สไตล์มินิมอล (Minimal Style)
 
– ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เน้นฟังก์ชันและความสงบ โปร่งโล่ง
– โทนสีอ่อนหรือสีสว่าง เช่น ขาว ครีม ไม้สีอ่อน
4.4 สไตล์สแกนดิเนเวียน (Scandinavian Style)
 
– ใช้ไม้สีอ่อน ผสานกับโทนสีขาว เทา หรือพาสเทลอ่อน ๆ
– ออกแบบเรียบง่าย เน้นความอบอุ่นเป็นธรรมชาติ
4.5 สไตล์ลอฟท์ (Loft Style)
 
– โชว์โครงสร้างปูนเปลือย เหล็ก และไม้ที่ไม่ขัดสี
– ให้ความรู้สึกดิบเท่ ทันสมัย
5. แบ่งตามคุณลักษณะพิเศษ
5.1 เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ (Multi-functional Furniture)
 
– เช่น โซฟาเบด โต๊ะปรับขยาย ตู้ที่สามารถพับเก็บได้
– เหมาะกับพื้นที่จำกัดในคอนโดหรือหอพัก
5.2 เฟอร์นิเจอร์ Ergonomic (รองรับสรีระ)
 
– เก้าอี้ทำงานหรือโต๊ะที่ออกแบบเพื่อสุขภาพ ช่วยลดอาการเจ็บปวดในระยะยาว
– มีการปรับระดับความสูง พนักพิง ที่วางแขน ฯลฯ
5.3 เฟอร์นิเจอร์เด็ก (Kids’ Furniture)
 
– ออกแบบให้เหมาะกับส่วนสูงเด็ก และมีสีสันสดใส
– ใช้วัสดุปลอดสารพิษ ปลอดภัยต่อเด็ก
สรุป

เฟอร์นิเจอร์ มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับการจำแนกตามการใช้งาน สถานที่ติดตั้ง วัสดุ รูปแบบการประกอบ และสไตล์การออกแบบ
– การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้พื้นที่ใช้งานสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทั้งด้านดีไซน์ ฟังก์ชัน และการดูแลรักษา
– ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น พื้นที่งบประมาณ สไตล์ที่ชื่นชอบ วัสดุที่ทนทานต่อการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
การรู้จัก “ประเภทของเฟอร์นิเจอร์” จะช่วยให้เราวางแผนการเลือกซื้อหรือจัดวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด สำนักงาน หรือร้านค้า ก็สามารถตกแต่งและใช้พื้นที่ได้ลงตัว ตอบสนองทั้งฟังก์ชันและความสวยงามได้อย่างครบถ้วน!
Scroll to Top